วันนี้ (29 สิงหาคม 2567) เวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย บริเวณแผงผลไม้ตลาดพิมลชัย (บังริสแตงโม) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ทราบชื่อ คือ นาย ฟิตรี มูนะ อายุ 19 ปี ที่อยู่ 199/1 หมู่ที่ 1 ตำบลตะโละ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ซึ่งมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกรณีก่อเหตุพ่นสีสเปรย์ โดยมีข้อความว่า “Patani สันติภาพเอกภาพนครรัฐปัตตานี” บริเวณทางเลียบทางรถไฟตลาดเก่า ตำบลสะเตง และข้อความ “PATAN MERDEKA BRN” บริเวณท้ายซอยจารูพัฒนา ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 และเหตุลอบวางเพลิงเผาเต็นท์ขายของบริเวณริมถนนเลียบแม่น้ำปัตตานี ใกล้จุดตรวจสะพานดำ (จุดตรวจ อส.เมืองยะลา) ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567
ต่อมา เวลา 08.30 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดยะลา ร่วมกับ กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดยะลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ นำตัว นายฟิตรีฯ มาซักถามพร้อมดำเนินกรรมวิธีในส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดยะลา จากผลซักถามเบื้องต้น นายฟิตรีฯ ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยร่วมกับเพื่อนรวม 5 คน โดยในขั้นตอนการปฏิบัติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้สงสัยให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 คน คือ นายฟิตรี มูนะ และ นายรุสลัน ตาเซ๊ะ ไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามและขยายผล และในส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 3 คน อยู่ระหว่างกระบวนการซักถามเบื้องต้น ณ กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดยะลา
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ