วันพุธ, 20 พฤศจิกายน 2567

กอ.รมน.ภาค 4 สน. รายงานความคืบหน้า จนท. เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.30 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ร่วมกับ สถานีตำรวจภูธรโคกโพธิ์, ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอโคกโพธิ์ และพิสูจน์หลักฐานจังหวัดปัตตานี เข้าตรวจสอบพื้นที่หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบเห็นวัตถุต้องสงสัยเป็นกล่องพลาสติกถูกใส่ไว้ในถุงพลาสติกใสสีเขียวซ่อนไว้ใต้เก้าอี้ม้าหินหน้าร้านขายของชำ เลขที่ 103/1 หมู่ที่ 1 ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี จากการตรวจสอบพบว่า ภายในถุงพลาสติกเป็นกล่องวงจรระเบิดแบบใช้วิทยุสื่อสารเป็นตัวจุดระเบิด และมีภาชนะบรรจุเป็นถังดับเพลิง จึงได้ทำการนิรภัยให้ปลอดภัยและเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิดไปทำลายในพื้นที่บ้านบ่อดิน หมู่ที่ 6 ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี จากการปฏิบัติไม่เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรวบรวมวัตถุพยานและหลักฐานต่างๆ เพื่อนำไปตรวจสอบหาความเชื่อมโยงของกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 เวลา 07.30 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานี ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมายตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยจากภาพกล้องวงจรปิด ที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว (เมื่อ 3 ก.ค.67) ทราบชื่อ คือ นายมะยากี มะลี อายุ 31 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 4 ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี จึงได้เชิญตัวเพื่อพบปะพูดคุยและเข้าตรวจสอบบ้านที่พักอาศัย จำนวน 2 หลัง ตรวจยึดสิ่งของเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติม จำนวน 2 รายการ สำหรับในขั้นตอนการปฏิบัติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้สงสัย ให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามและขยายผลต่อไป

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย รวมถึงบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ