จากกรณีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ได้ออกหนังสือชี้แจงกรณีมีการแชร์ภาพวีดีโอที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานขอความร่วมมือเข้าไปเก็บรูปภาพ ป้ายสัญลักษณ์ และธงปาเลสไตน์ของกลุ่มเยาวชนในขบวนพาเหรด ซึ่งเป็นขบวนพาเหรดในกิจกรรมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ 2567 ในพื้นที่ตำบลโคกสะตอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 7 กันยายน 2567
ต่อมาในวันนี้ (11 กันยายน 2567) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ ได้ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับ กรณีเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกในงานสืบสานประเพณีวัฒนธรรม ตำบลโคกสะตอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา นั้น ว่าได้ปรากฏถึงการปฏิบัติหน้าที่ ที่ถูกประชาชนในพื้นที่ตั้งคำถามถึงความไม่เหมาะสม เป็นวงกว้าง อันมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในภารกิจแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของหน่วยงานความมั่นคง โดยเฉพาะหน่วยทหารพรานที่มีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติงานในพื้นที่อย่างยิ่ง
ล่าสุดวันนี้ (11 กันยายน 2567) พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีชื่อว่า กิจกรรมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งก่อนการจัดกิจกรรม ได้มีการประชุมร่วมกันกับหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จำนวน 2 ครั้ง โดยมี นายมาหะมะ ลาเต๊ะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะตอ เป็นประธานการประชุม โดยมี เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46, ปลัดอำเภอประจำตำบล, เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอ, ผู้นำท้องที่ และคณะกรรมการจัดกิจกรรม เข้าร่วมประชุม ซึ่งจากการประชุมหารือได้มีมติตกลงกันไว้ว่า การเดินขบวนพาเหรดในพิธีเปิดกิจกรรม จะต้องแสดงออกถึงประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นเท่านั้น และจะต้องไม่มีการแสดงออกถึงสัญลักษณ์ที่สื่อนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเป็นการส่งเสริมถึงความสามัคคีตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจกรรมดังกล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการจัดงาน โดย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะตอ ได้มีการเชิญอำเภอใกล้เคียงในจังหวัดนราธิวาส มาเข้าร่วมจำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอรือเสาะ อำเภอศรีสาคร อำเภอยี่งอ และอำเภอจะแนะ ซึ่งก่อนเริ่มกิจกรรม ทุกอำเภอได้มีการลงทะเบียนและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีการแสดงสัญลักษณ์และสื่อนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ของการจัดงาน แต่มีเพียงเยาวชนบางกลุ่มเดินทางมาล่าช้า และไม่ผ่านการลงทะเบียน ซึ่งเมื่อคณะกรรมการจัดกิจกรรมเข้าไปตรวจสอบพบว่า กลุ่มเยาวชนเหล่านี้ได้ทำผิดวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในลักษณะการแอบแฝง เพื่อประโยชน์ที่นอกเหนือไปจากมติการจัดกิจกรรมที่ได้ตกลงกันไว้ โดยได้มีการนำธงปาเลสไตน์เข้ามาร่วมในขบวนพาเหรด ซึ่งการแสดงออกโดยการใช้ธงปาเลสไตน์ เป็นสัญลักษณ์ในการแสดงออกอย่างชัดเจนนั้น อาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องชาวไทย ที่อาศัยอยู่ทั้งในประเทศอิสราเอลและปาเลสไตน์ เพราะประเทศไทยจำเป็นต้องเป็นกลางในกรณีนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ที่ตกอยู่ท่ามกลางภาวะสงครามในต่างประเทศ
โดยในเวลาต่อมา คณะกรรมการฯ จึงได้มีขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ภายในบริเวณการจัดกิจกรรม เข้าไปช่วยชี้แจงต่อกลุ่มเยาวชน เพื่อให้มีความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน พร้อมทั้ง ขอความร่วมมือผู้ควบคุมกลุ่มเยาวชน ให้เก็บรูปภาพ ป้ายสัญลักษณ์ และธงปาเลสไตน์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหาร ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 มิได้มีเจตนาเข้าไปละเมิดสิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงออกทางสาธารณะ เพียงแค่ทำ ตามวัตถุประสงค์ของผู้จัดงาน เพื่อให้การดำเนินงานกิจกรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียนให้ทราบว่า การสืบสานศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม ตลอดจนการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ในพื้นที่ ถือเป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่สามารถแสดงออกได้ตามรัฐธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนด้วยดีเสมอมา ตลอดจนภารกิจการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยแนวทางสันติวิธีเป็นสำคัญ เพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืนตลอดไป
.