วันอาทิตย์, 22 ธันวาคม 2567

กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจง กรณีเจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ บ.คลองช้าง ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้ จนท. เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย และ ผกร. เสียชีวิต 3 ราย

วันนี้ (1 สิงหาคม 2567) เวลา 17.50 น. พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานี ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาเคลื่อนไหวหลบซ่อนพักพิงและเตรียมการก่อเหตุในพื้นที่ บ้านคลองช้าง ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมพื้นที่ และได้ปิดกั้นพื้นที่ไว้ จนกระทั่งเวลา 08.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ติดอยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่ ได้ขว้างระเบิดแสวงเครื่อง (แบบไปป์บอมบ์) และเปิดฉากการยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ เพื่อพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้สกัดกั้นและทำการยิงตอบโต้จนเกิดการปะทะกันขึ้น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย และเสียชีวิต จำนวน 1 นาย

ภายหลังเกิดเหตุ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใส เน้นการดำเนินการจากเบาไปหาหนัก และคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด รวมทั้งใช้ความพยายามในการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงยอมออกมามอบตัวเพื่อต่อสู้ตามหลักของกฎหมาย โดยได้ขอความร่วมมือผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนาในการเป็นผู้ช่วยเจรจา

ในวันต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ ที่คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจะหลบซ่อนตัว ควบคู่กับการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงยอมออกมามอบตัวอย่างต่อเนื่อง และได้มีการปะทะกันขึ้นเป็นระยะ จึงได้ดำเนินการกระชับวงล้อม เพื่อจำกัดเสรีการปฏิบัติของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง แต่เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมีความชำนาญในพื้นที่และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน จึงต้องใช้เวลาและความระมัดระวังในการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว

ล่าสุดวันนี้ (1 สิงหาคม 2567) เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าถากถางพื้นที่เพื่อกระชับวงล้อม ระหว่างนั้นได้ตรวจพบผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต จำนวน 3 ราย ทราบชื่อ ดังนี้

1. นายรอบี แวสะมะแอ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 บ้านคลองช้าง หมู่ที่ 4 ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี มีหมายจับ จำนวน 2 หมาย ประกอบด้วย 1.1 หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.253/64 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2564 กรณีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุรุนแรง กลุ่มนายรอซาลี หลำโสะ พื้นที่เขานาประดู่ ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 1.2 หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.37/65 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เหตุเผายางรถยนต์บริเวณสี่แยกชลประทานบนถนนสาย 42 พื้นที่ ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562

2. นายอิสมาแอ จาและ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/2 หมู่ที่ 4 ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี มีหมายจับ จำนวน 4 หมาย ประกอบด้วย 2.1 หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.508/63 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2563 เหตุยิง ร้อยตำรวจโท วีระศักดิ์ สารพร พื้นที่บ้านมะกรูด หมู่ที่ 3 ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2563 2.2 หมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ จ.56/64 เหตุขโมยรถจักรยานยนต์ ของนางห้อง ชูอินทร์ พื้นที่บ้าน ควนหรัน ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 2.3 หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.255/64 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2564 กรณีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุรุนแรง กลุ่มนายรอซาลี หลำโสะ พื้นที่เขานาประดู่ ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 2.4 หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.364/67 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 เหตุกราดยิงราษฎร พื้นที่สนามฟุตบอล หมู่ที่ 2 ตำบลดาโต๊ะ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567

3. นายต่วนอาเดล มานิ๊ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 บ้านดอนยาง หมู่ที่ 4 ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี มีพฤติกรรมเป็นแนวร่วมผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานฯ เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ จากการตรวสอบพบวัตถุพยาน ประกอบด้วย อาวุธปืนสงคราม AK-102 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนสงคราม M16 จำนวน 1 กระบอก และปืนพกสั้น จำนวน 2 กระบอก จึงได้รวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อขยายผลหาความเชื่อมโยงติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังคงมีเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติวิธี โดยพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม และให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองตามขั้นตอนของกฎหมาย และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย รวมถึงบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ