ตามที่มีสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการนำเสนอข่าว เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าไปควบคุมตัวคุณครูผู้สอนในโรงเรียนเเห่งหนึ่งในอำเภอโคกโพธิ์ ทราบชื่อ นางสาวรอกีเยาะ มูนะ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวกลับไปที่บ้านนาค้อใต้ ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นบ้านและควบคุมตัวน้องสาวอีกคนทราบชื่อ นางสาวซูไรนี มูนะ จากนั้นได้นำตัวไปที่สถานีตำรวจภูธรหนองจิก ซึ่งจากกรณีดังกล่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียนชี้แจงให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง ดังนี้
จากกรณีเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นายไฟซ้อล หะยียูนุ ไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 จากผลการซักถาม นายไฟซ้อลฯ รับสารภาพว่าเป็นผู้ถ่ายภาพรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากจุดควบคุมกล้องวงจรปิดภายในตู้เก็บเงินปั้ม ปตท. จำนวน 2 ครั้ง ก่อนเกิดเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่สายตรวจ สถานีตำรวจภูธรหนองจิก เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567 และได้ส่งโทรศัพท์ของตนให้ นางสาวซูไฮนี หะยียูนุ ภรรยา นำไปซุกซ่อน
ต่อมาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานี ร่วมกับศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ขอความร่วมมือ นางสาวซูไรนี หะยียูนุ ซึ่งเดินทางมาเยี่ยม นายไฟซ้อลฯ ให้พาเจ้าหน้าที่ไปเอาเครื่องโทรศัพท์ที่นำไปซุกซ่อน และได้ให้ข้อมูลว่าได้นำโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว ไปมอบให้กับ นางสาวรอกีเยาะ มูนะ พี่สาวตนเอง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือ นางสาวซูไรนีฯ และ นางสาวรอกีเยาะ ฯ เพื่อไปค้นหาโทรศัพท์มือถือดังกล่าว ณ บ้านเลขที่ 13/2 หมู่ที่ 2 ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และโรงเรียนแสงปัญญาวิทยา ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นที่ทำงานของ นางสาวรอกีเยาะฯ แต่ไม่พบเครื่องโทรศัพท์ดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ขอเชิญตัวมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ สถานีตำรวจภูธรหนองจิก และส่งตัวกลับภูมิลำเนา โดยไม่ได้มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด สำหรับในขั้นตอนการปฏิบัติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้สงสัยให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ยังคงมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยแนวทางสันติวิธี เพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ขอให้พี่น้องประชาชนตรวจสอบและโปรดใช้วิจารณญาณ กลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร อย่าหลงเชื่อ ไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลต่อ ในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งอาจตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่หวังสร้างความแตกแยกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีเจตนาทำให้สังคมเกิดความสับสน และจะมีความผิดทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้โดยตรงที่สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. หมายเลข 1341 หรือติดตามได้ทางเพจ Facebook ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า – เพจใหม่ เพื่อที่จะได้รับทราบข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและเป็นจริงต่อไป