วันนี้ (13 มิถุนายน 2567) เวลา 11.00 น. ที่ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย ชั้น 3 อาคารรวมใจเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะ ผนึกกำลังร่วมระหว่าง กอ.รมน.ภาค 4 ที่มี พลโท ศานติ ศกุนตนาต แม่ทัพภาคที่ 4 ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์โดยตัวแทนอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบจุดก่อสร้างอาคารบนพื้นที่เขาหมาแหงน (เขาเฉวงน้อย) เร่งพัฒนากฎหมายให้ทันการณ์ ป้องปรามความเสียหายจากทุนต่างชาติ ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณเขาหมาแหงน (เขาเฉวงน้อย) ตำบลบ่อผุด ซึ่งมีการก่อสร้างวิลล่าหรูหรานับร้อยหลัง มูลค่ารวมกันไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้าน ที่ถูกร้องเรียนว่าก่อสร้างผิดแบบและไม่ถูกต้องตามกฎหมายตั้งอยู่
นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ปัญหาคนต่างด้าวหรือชาวต่างชาติถือครองหรือครอบครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์โดยอาศัยตัวแทนอำพรางหรือนอมินียังทวีความรุนแรงและพบมากขึ้นในหลายพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่ด้านการเกษตร ซึ่งมีทั้งทุนจีน รัสเซีย อินเดีย ปากีสถาน พม่า ทั้งในรูปแบบการให้คนสัญชาติไทยถือครองที่ดินแทนโดยผ่านความสัมพันธ์ทางครอบครัว (การสมรสกับคนไทยหรือการถือครองโดยบุตร) การเช่าหรือซื้อผ่านผู้มีสัญชาติไทย การตั้งเป็นนิติบุคคลไทยแล้วถ่ายโอนในภายหลัง การใช้นิติบุคคลสัญชาติไทยซื้อที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์สูงกว่าราคาทุน ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างกว้างขวาง ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีความล้าสมัยจึงขาดประสิทธิภาพในการใช้บังคับ หากไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็วจะทำให้ประเทศได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงจะเสนอให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง หรือการตรากฎหมายเกี่ยวกับตัวแทนอำพรางหรือนอมินี (Nominee) ขึ้นมาเป็นการเฉพาะเพื่อเป็นมาตรการป้องกันและลงโทษให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ประเทศเรากำลังเผชิญอยู่โดยเร็ว
นายทรงศัก กล่าวว่า วันนี้ได้ระดมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องประชุมหารือร่วมกัน โดยมี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4, พันเอก ฐิติพงษ์ อินวะษา รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 (พื้นที่เกาะสมุย) นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอเกาะสมุย ผู้แทนตำรวจภูธรภาค 8 และหน่วยงานในพื้นที่ ระดมข้อมูลในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของ หลัง กอ.รมน.ภาค 4 รายงานว่า บริเวณพื้นที่ยอดเขาและเชิงเขาบนเกาะสมุยหลายจุดกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เต็มไปด้วยวิลล่าหรู บ้านพักปลูกสร้าง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ครอบครองของชาวต่างชาติ ที่ดำเนินกิจกรรมในนามบริษัทนิติบุคคล โดยใช้ชื่อนอมินีชาวไทยมาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ทำธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนพื้นที่อนุรักษ์และพื้นที่เกษตรไปเป็นธุรกิจการจัดสรรที่ดินเพื่อสร้างอาคาร เป็นการทำลายเอกลักษณ์ธรรมชาติของเกาะสมุย ทำลายสภาวะแวดล้อมของพื้นดิน ภูเขา ป่าไม้ ทางน้ำไหล ที่อยู่อาศัย ทำลายสภาพความเป็นอยู่ของชุมชน รวมถึงการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินบางพื้นที่บนเกาะสมุยที่อาจไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นไปตามกฎหมายแล้วนำที่ดินไปดังกล่าวไปขายให้กลุ่มนายทุนต่างชาติ
ซึ่งจากการหารือมีความเห็นสอดคล้องในทิศทางเดียวกัน คือ การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น หรือระยะเร่งด่วนเฉพาะหน้า รวมทั้งแก้ในระยะต่อไปทั้งระบบ คือ 1. วางแนวทางและหลักการในเรื่องนี้ โดยในระยะเร่งด่วนมุ่งหยุดการแพร่กระจาย (Freeze) การถือครองอสังหาริมทรัพย์โดยเร่งดำเนินคดีและใช้มาตรการในเชิงป้องปราม ในระยะต่อไป เร่งขยายกฎหมายให้ครอบคลุมกรณีอื่น ๆ ให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน เสนอแนะให้มีการแก้ไขทั้งระบบทั้งการป้องกัน การติดตามการบังคับใช้กฎหมาย และการแก้ไขกฎหมาย 2. มาตรการตรวจสอบและควบคุมถึงการลงทุนและการบริหารจัดการของคนต่างด้าวในรูปแบบของนิติบุคคลไทยที่เข้าถือครองที่ดิน 3. มาตรการควบคุมการจดทะเบียนนิติกรรมที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ถือครองโดยนิติบุคคลสัญชาติไทยที่มีคนต่างด้าวถือหุ้นหรือลงทุน 4. การบูรณาการร่วมกันทั้งในระดับนโยบายทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่จังหวัด เพื่อให้เป็นกลไกแบบบูรณการที่สำคัญในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ 5. การสร้างแรงจูงใจในการเฝ้าระวังการกระทำผิดของคนต่างด้าว ให้แก่คนไทย 6. มาตรการกำหนดเขตที่ดิน (Zoning) แบบเฝ้าระวัง 7. การแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในนิยามคำว่า “คนต่างด้าว” ให้ครอบคลุมถึงอำนาจในการบริหารจัดการเหนือนิติบุคคลของคนต่างด้าว และสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนอำนาจในการบริหารจัดการการดำเนินการของนิติบุคคลนั้น และ 8. ในการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ อย่างแรก คือ จะมีข้อเสนอแนะให้แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนซึ่งมีอยู่หลายฉบับ และอีกลักษณะหนึ่ง คือ เสนอแนะให้มีการยกร่างกฎหมายกลางที่เกี่ยวกับตัวแทนอำพรางและการทำธุรกรรมอำพรางโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายเฉพาะในเรื่องนี้
ด้าน พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า หลังจากที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้รับการร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของการเข้าไปตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ รวมไปถึงการถือครองสิทธิ์ต่าง ๆ เรามีการจัดระบบนำไปสู่การดำเนินการร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องกฎหมาย พ.ร.บ. ต่าง ๆ รวบรวมทีมงานบูรณาการร่วมกัน นำกฎหมายของแต่ละกระทรวงมาปรับใช้ให้ถูกต้อง และเกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดโดยจะไม่ไปกระทบกับผู้ที่ทำถูกกฎหมายอยู่ก่อนแล้ว หากสามารถดำเนินการได้เร็วก็จะทำให้ประเทศเสียหายน้อยลง ผืนป่าและความอุดมสมบูรณ์ก็กลับคืนพี่น้องสมุยอย่างเป็นรูปธรรม ก่อนจะดำเนินการในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปด้วยเช่นกัน ซึ่งจากการตรวจสอบในพื้นที่เกาะสมุยก็พบว่ามีการกระทำผิดในเรื่องของอาคารสิ่งปลูกสร้าง อยู่ในพื้นที่ที่มีความสูงชัน มองจากมุมสูงก็พบว่ามีอาคารหลายหลังเป็นทั้งที่พักอาศัยลักษณะพูลวิลล่าเกือบทุกหลัง ส่วนข้อมูลขั้นต้นใครเป็นผู้ถือครองสิทธิ์ ใครเป็นเจ้าของนั้นมีแล้วบางส่วน เชื่อมั่นว่าถ้าเราทำตามความถูกต้องตามตัวบทกฎหมายที่มีอยู่ สามารถจะดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดได้โดยเร็ว โดยเฉพาะวันนี้ที่ได้ประชุมร่วมกับผู้ตรวจการมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่าพื้นที่เกาะสมุย จะสามารถบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดได้อย่างแน่นอน ที่สำคัญขอให้มั่นใจในเจ้าหน้าที่รัฐว่าจะไม่มีการกลั่นแกล้ง ผิดก็ว่าไปตามผิด และหากพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ก็จะไม่ปกป้องและจะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน