วันพุธ, 20 พฤศจิกายน 2567

กองทัพอากาศ เดินหน้า “โครงการแม่บ้านทัพฟ้า” พัฒนาศักยภาพผู้พิการจังหวัดชายแดนภาคใต้

วันนี้ 25 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์เรียนรู้ร่วมพัฒนาศักยภาพคนพิการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พลอากาศตรี ภราดร คุ้มทรัพย์ ประธานมูลนิธิพัฒนาศักยภาพคนพิการ เป็นประธานในพิธีส่งมอบรถเข็นสำหรับคนพิการ (รถวิลแชร์) และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับคนพิการ ตามโครงการแม่บ้านทัพฟ้า พัฒนาศักยภาพคนพิการ จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งกองทัพอากาศ ได้ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ถึงการดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้ร่วมพัฒนาศักยภาพคนพิการจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในพื้นที่อีกด้วย

นายมูฮัมหมัดฮาซัน มะเซ็ง ผู้จัดการศูนย์เรียนรู้ร่วมพัฒนาศักยภาพคนพิการจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ศูนย์เรียนรู้ร่วมพัฒนาศักยภาพคนพิการจังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งนี้ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2559 ตั้งอยู่ภายในวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ดําเนินงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะคนพิการ มีเป้าหมายหลัก คือการสร้างผู้นําคนพิการและกลุ่มช่วยเหลือตนเองของคนพิการ สนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนพิการในพื้นที่ ใช้กลไกการจัดบริการที่จำเป็นสําหรับคนพิการ โดยคนพิการ และเพื่อคนพิการ เพื่อนําไปสู่การลดความเหลื่อมล้ําทางสังคม ซึ่งปัจจุบันเกิดการพัฒนาโครงการอย่างเป็นรูปธรรม สามารถนำแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการไปสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง จนเกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์ในพื้นที่ แต่การดําเนินงานของกลุ่มผู้นําคนพิการยังไม่สามารถทําได้ด้วยตนเอง ต้องพึ่งแหล่งทุนในการทํางานจากภายนอก และเพื่อที่จะให้กลุ่มผู้นําคนพิการสามารถดําเนินงานได้ด้วยตนเอง มีหลักประกันการทํางานที่มั่นคงและปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง ให้เกิดประสิทธิภาพทางภาคีเครือข่ายจึงจัดทําโครงการสร้างศูนย์พัฒนาศักยภาพคนพิการจังหวัดชายแดนใต้ขึ้น เพื่อให้เป็นศูนย์เตรียมความพร้อมด้านการดํารงชีวิตของคนพิการแบบองค์รวม ทั้งด้านการฝึกทักษะชีวิต ทักษะทางสังคม ทักษะด้านการประกอบอาชีพ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างใต้สันติสุข และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงสังคม ที่เปิดกว้างและให้โอกาสคนพิการได้ลุกขึ้นยืน พร้อมกับการการพัฒนาศักยภาพในด้านต่าง ๆ ที่เป็นรูปธรรม นำไปสู่สันติสุขชายแดนใต้ อย่างยั่งยืน